วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2553

เรื่องเล่าจาก ฮาร์วาร์ด 3 : General Management Program

สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขออภัยที่บทความขาดช่วงไปหลายเดือนครับ เหตุเกิดต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคมปี 2552 หลังจากที่ผมได้ไปศึกษาต่อในหลักสูตร Driving Corporate Performance ที่จัดโดย ศาสตราจารย์ Robert Kaplan ผู้เป็นต้นตำหรับของBalanced Scorecard และ Strategy Map ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการศึกษาที่เข้มข้นมากที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตของผม ก่อนจบหลักสูตรเพียงไม่กี่วัน ก็มีเจ้าหน้าที่ของทางโรงเรียน เดินเข้ามาทักผม และแสดงความยินดีที่ผมได้รับการพิจารณาเข้าศึกษาต่อในหลักสูตร General Management Program

ความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนั้น บอกไม่ถูกว่าดีใจหรือเสียใจ มากกว่ากัน ในส่วนที่เสียใจคือจะต้องจากบ้านมาอีกหลายเดือน และสิ่งที่เพิ่งได้เรียนไปก็คงจะยังไม่ได้นำมาถ่ายทอดหรือใช้ให้เกิดประโยชน์เลย เพราะกลับบ้านไปไม่กี่วันก็ต้องเตรียมเก็บกระเป๋ากลับมาอเมริกาใหม่อีกครั้ง (ตอนสมัครทั้งสอง Programก็รู้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้คาดหมายว่าจะได้รับการตอบรับทั้งคู่) ในส่วนที่ดีใจก็คือ โปรแกรมนี้เป็น 1 ใน 3 ของ Comprehensive Leadership Program สำหรับผู้บริหารของ Harvard Business School ซึ่งประกอบไปด้วย Advanced Management Program (AMP), General Management Program (GMP) และ Program for Leadership Development (PLD) ซึ่ง แบ่งผู้เข้าเรียนตามประสบการณ์ทำงาน ซึ่งแบ่งเป็น มากกว่า 20 ปีสำหรับ AMP, 15-20 ปี สำหรับ GMP และน้อยกว่า 15 ปี สำหรับ PLD ซึ่งผู้ที่เรียนจบหลักสูตร AMP และ GMP จะได้รับสถานะเป็นศิษย์เก่า (Alumni Status) ของ Harvard Business Schoolทันทีหลังจากจบหลักสูตร แต่หลักสูตร PLD จะต้องมีการกลับมาลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรอื่นอีก รวมไม่น้อยกว่า 10 วัน จึงจะได้รับสถานะศิษย์เก่า

AMP จะเรียนต่อเนื่อง On Campus 8 สัปดาห์ โดยมีช่วงหยุดพักตรงกลางเพียงไม่กี่วัน ส่วน GMP จะเรียนทั้งหมด 4 เดือน ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมไปจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน โดยมีช่วงเวลาเรียน On Campus ทั้งหมด 7 สัปดาห์ โดยเริ่มจาก Module 1 เป็นพื้นฐานวิชาการ อ่านหนังสือและทำแบบทดสอบ on-line, Module 2 เรียนที่โรงเรียน 4 สัปดาห์, Module 3 กลับมาทำ Case 1 เดือน, Module 4 เรียนที่โรงเรียนอีก 3 สัปดาห์ เป็นอันจบหลักสูตร

ผู้เรียนในระดับ AMP มักจะเป็นผู้บริหารระดับสูงในระดับกรรมการเครือบริษัท ส่วน GMP จะเป็นระดับผู้จัดการทั่วไปจนถึงระดับกรรมการผู้จัดการที่ต้องเรียนที่จะบริหารทุกด้าน ทั้ง Manage up (บริหารเจ้านาย ผู้ถือหุ้น) , Manage down (บริหารผู้ใต้บังคับบัญชา), Manage across (บริหารเพื่อนร่วมงาน) แต่จากการที่ผมได้พูดคุยกับผู้เรียนหลักสูตร AMP ทำให้ทราบว่าเราใช้ Case Study ที่เหมือนกันน่าจะถึงครึ่งหนึ่งของจำนวน Case ทั้งหมด

GMP ที่ผมไปเรียนมีเพื่อนร่วมรุ่นทั้งหมด 100 คน จาก 36 ประเทศ โดยผมเป็นคนไทยคนเดียวใน Program นี้ เพื่อนร่วมรุ่นแต่ละคนนั้นเป็นผู้บริหารของบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่ระดับโลก โดยมีผู้ที่จบปริญญาเอกมาเรียนประมาณ 10 คน (รวมตัวผมเองด้วย) เวลาเรียนตั้งแต่วันจันทร์ถึงเสาร์ โดยเฉลี่ยอ่าน Case วันละ 3 Case รวมจำนวน 50-60 หน้า โดยเฉลี่ยต่อวัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นช่วงเวลาของการศึกษาที่เข้มข้นที่สุดตั้งแต่ผมเคยเจอมา เนื้อหาในการเรียนมีทั้ง กลยุทธ์ การเงิน การบัญชี การตลาด การบริหารทรัพยากรบุคคล การเจรจาต่อรอง ภาวะผู้นำ ซึ่งผมจะได้พยายามย่อยเนื้อหา สาระต่างๆ มานำเสนอในบทความของผมในช่วงตลอดปี 2553 ให้กับผู้อ่านทุกท่าน

ถึงวันนี้ผมเชื่อว่ายังไม่สายไป ที่จะกล่าวคำว่า “สวัสดีปีใหม่” ขออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในสากลโลก ช่วยปกปักรักษาให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุข ความสวัสดีตลอดปีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น