ในครั้งนี้เราจะมาว่ากันต่อด้วยเรื่องของ Internal Rate of Return (IRR) หรืออัตราผลตอบแทนภายใน ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการใช้วิเคราะห์การลงทุนที่เป็นที่นิยมไม่แพ้วิธี Net Present Value (NPV) หรือ การหามูลค่าปัจจุบันสุทธิ
ทั้งสองวิธีดังกล่าวมีหลักการพื้นฐานเดียวกันคือให้ความสำคัญกับค่าของเงินตามเวลา ซึ่งแปลว่ากระแสเงินสดจำนวนเดียวกันที่เกิดขึ้น ณ เวลาต่างกันนั้น ย่อมมีค่าไม่เท่ากัน ซึ่งวิธีการคำนวณด้วย NPV จะใช้อัตราคิดลด (discount rate) หรือจะเรียกว่าเป็นต้นทุนค่าเสียโอกาสของเงินทุนก็ได้ ซึ่งเป็นค่าที่ถูกกำหนดขึ้น (หรือเกิดจากการคำนวณต้นทุนเงินจากแหล่งต่างๆ ทั้งเจ้าของและเจ้าหนี้ แล้วนำมาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก ซึ่งจะได้ กล่าวถึงในโอกาสต่อไป) แล้วนำมาใช้ในคิดลดกระแสเงินสด โดยการหารกระแสเงินสดที่เกิดขึ้นในแต่ละปีด้วย (1+ r)n ซึ่งในที่นี้ r คืออัตราคิดลด และ n คือระยะเวลา (ปี)
ยกตัวอย่าง การคำนวณผลตอบแทนโครงการที่มีต้นต้นทุนค่าเสียโอกาส 10% ซึ่งมีการลงทุนครั้งแรกเท่ากับ 100 และได้รับผลตอบแทนในปีต่อมาเป็นจำนวน 20,30,35,40 ตามลำดับ
| ปัจจุบัน | สิ้นปีที่ 1 | สิ้นปีที่ 2 | สิ้นปีที่ 3 | สิ้นปีที่ 4 |
1. กระแสเงินสด | -100 | 20 | 30 | 35 | 40 |
2.สูตรของตัวหาร | (1+0.1)0 | (1+0.1)1 | (1+0.1)2 | (1+0.1)3 | (1+0.1)4 |
3. ค่าของตัวหาร | 1 | 1.1 | 1.21 | 1.33 | 1.46 |
4. มูลค่าปัจจุบัน(1)/(3) | -100 | 18.18 | 24.79 | 26.30 | 27.32 |
จะเห็นได้ว่าผลรวมของมูลค่าปัจจุบัน หรือ กระแสเงินสดสุทธิ (Net Present Value) มีค่าเท่ากับ -100 + 18.18 + 24.79 + 26.30 + 27.32 = -3.41 ซึ่งผลติดลบที่เกิดขึ้นจะทำให้เราตัดสินใจไม่ลงทุนเพราะมูลค่ากระแสเงินสดสุทธิไม่สามารถชดเชยกับต้นทุนค่าเสียโอกาส 10% ที่เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าไม่คำนึงถึงค่ามูลค่าปัจจุบันเลย จะคำนวณได้ว่ามีกำไรเท่ากับ -100 + 20 + 30 + 35 + 40 = 25
ถ้าถามว่า NPV ต้องมีค่าเท่าใดจึงจะตัดสินใจลงทุน คำตอบก็คือมากกว่าหรือเท่ากับ 0 ครับ ส่วนจะมากกว่าเท่าไรนั้นก็ถือเป็นกำไรส่วนเกิน เพราะการที่ผลตอบแทนทำให้ NPV = 0 นั้น แปลว่าได้ทุนคืน และ ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนตามที่ต้องการหรือคุ้มกับค่าเสียโอกาสแล้วนั่นเอง
ในกรณีที่เราไม่แน่ใจขึ้นว่าต้นทุนค่าเสียโอกาสของเราเป็นเท่าไรแน่ (แต่อาจมีตัวเลขอยู่ในใจบ้างแล้ว) วิธีการ IRR จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น กล่าวคือ IRR จะเป็นอัตราคิดลดที่ทำให้ NPV = 0 ซึ่งแปลความว่าอัตราคิดลดที่คำนวณได้คืออัตราผลตอบแทนภายในของโครงการลงทุนนั้นๆ ลองพิจารณาตัวอย่างเดิม
| ปัจจุบัน | สิ้นปีที่ 1 | สิ้นปีที่ 2 | สิ้นปีที่ 3 | สิ้นปีที่ 4 |
1. กระแสเงินสด | -100 | 20 | 30 | 35 | 40 |
2.สูตรของตัวหาร | (1+r)0 | (1+r)1 | (1+r)2 | (1+r)3 | (1+r)4 |
สมการคือ -100/(1+r)0 + 20/(1+r)1 + 30/(1+r)2 + 35/(1+r)3 + 40/(1+r)4 = 0
ถอดสมการหาค่า r จะได้เท่ากับ -1.3% การคำนวณด้วยเครื่องคิดเลขอาจจะยากเกินไป ซึ่งเราสามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้ function ในโปรแกรม EXCEL “= IRR(เลือกเซลล์ 5 เซลล์ที่ติดกันซึ่งบรรจุค่า -100,20,30,35,40)” ซึ่งเมื่อได้ค่า IRR ออกมาแล้ว ก็นำมาเทียบกับผลตอบแทนจากการลงทุนที่เราต้องการ ในที่นี้ถึงแม้ว่าเราไม่แน่ใจว่าเป็นเท่าใด แต่ด้วยค่า IRR ที่ติดลบ ก็ทำให้ตอบได้ว่าไม่ควรลงทุนในโครงการนี้
ลองทบทวนดูนะครับ แล้วจะพบว่าการทำความเข้าใจกับ NPR และ IRR ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด